1. Products การเพิ่มสินค้า
- กดที่ปุ่ม Add Product
- ใส่รูปภาพ ราคา รายละอียด
2. Shipping
คือการคำนวณค่าจัดส่ง
- None ไม่แสดงเลย เช่น คอร์สเรียน งานลงทะเบียนต่างๆ
- Free แสดงว่าจัดส่งฟรี Free!
- Flat Rate ราคาเดียวไม่ว่าจะสั่งกี่ชิ้น
- Flat + Free Shipping ราคาเดียว แต่ถ้าซื้อเกิน xxx บาท ส่งฟรี (ใส่ตัวเลขที่ Minimum for Free Shipping)
- Calculation คำนวณค่าจัดส่งแบบละเอียด เลือกติ๊กได้ในแต่ละขั้นตอน
- Starting Flat Cost – ค่าส่งเริ่มต้น ให้ไปกรอกที่ Flat Cost
- Add Products Shipping Cost – ค่าส่งในแต่ละสินค้า
- Free Shipping if Buy More – ถ้าซื้อเกินยอดที่กำหนด จะส่งฟรี ให้ไปกรอกเลขที่ Minimum for Free Shipping
3. Design
เป็นการตั้งค่าหน้าเว็บแบบง่ายๆ สามารถใส่แบนเนอร์ โลโก้ต่างๆ ได้
- Show Header? เลือกแสดงส่วนหัวของเว็บได้ ซึ่งปกติจะมีโลโก้ เมนูต่างๆ
- Show Footer? เลือกแสดงส่วนท้ายของเว็บได้ แต่ข้อ 1-2 แนะนำว่าปิดไป จะทำให้คนโฟกัสที่ตัว Sale Page มากกว่านะครับ
- Background Color ปรับสีพื้นหลัง แสดงเฉพาะบนจอคอม
- Accent Color เลือกสีที่ต้องการเน้น แนะนำให้เลือกให้เข้าชุดกับแบรนด์ แต้ต้องเป็นสีที่เข้ม เพื่อจะได้เห็นชัดเวลามีการเลือก / ตีกรอบ ต่างๆ
- Logo อัปโหลดโลโก้มาใส่ได้ ระบบจะนำมาแสดงตรงกลาง (หากต้องการแสดงแบบอื่น แนะนำให้จัดหน้าด้วย Blocks ใน Editor แทน)
- Rounded Logo? เลือกความมนของโลโก้ได้ ใส่ตัวเลข 100 ทำให้ขอบมนจนกลายเป็นวงกลม
4. ตั้งค่าลิงค์เมนูไลน์และอินบ็อก
- นำลิงค์ไลน์และอินบ็อกใส่
5. ข้อมูลสั่งซื้อ
ดูที่ข้อมูลของฟอร์มได้เลย ซึ่งอยู่ที่ Forminator → Submissions
6. การตั้งค่าปุ่มเพื่อให้ลูกค้าติดต่อ
- ใส่ลิงค์ไลน์ที่ช่อง ลิงค์ไลน์
- ใส่ลิงค์อินบ็อกที่ช่อง ลิงค์อินบ็อก
7. การแจ้งเตือนคำสั่งซื้อเข้าไลน์
- สร้างโทเคนตามขั้นตอนนี้ https://blogmkt.com/line-notify/
- เมื่อได้รหัสนำรหัสใส่ที่ช่อง ไลน์โทเคน
8. การใส่ Facebook พิกเซล และ Google tag manager
- นำไอดีพิกเซลเฟสบุ๊คใส่ที่ พิกเซลเฟสบุ๊ค
- นำไอดี Google tag manager ใส่ที่ ช่อง Google tag manager
9. ยืนยันโดเมนกับ Facebook
- เลือกการยืนยันโดนใช้ Meta
- Copy Code ที่ Facebook ใส่ที่ช่อง ยืนยันโดเมนบนเฟสบุ็คโดยใช้ Meta Tag